สถิติ
เปิดเว็บ | 25/05/2011 |
อัพเดท | 22/04/2017 |
ผู้เข้าชม | 3,588,583 |
เปิดเพจ | 4,877,476 |
สินค้าทั้งหมด | 127 |
บริการ
-
หน้าหลัก
-
รวมพระทุกหมวด
-
พระศึกษาและสะสม
-
พระสมเด็จวัดระฆัง
-
พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
-
พระสมเด็จวัดเกศไชโย
-
พระซุ้มกอ
-
พระรอด
-
พระนางพญา
-
พระผงสุพรรณ
-
พระกรุเนื้อดิน-ผง-ว่าน
-
พระกรุเนื้อชิน
-
รายการวัตถุมงคล
-
พระกรุ พระเครื่อง โบราณ
-
วัตถุมงคลรุ่นแรก เก่าหายาก
-
วัตถุมงคล ออกใหม่
-
ตารางกิจนิมนต์
-
กำหนดการณ์ งานพิธีวัดไทรย้อย
-
โครงการต่างๆ ของวัด
-
แกลลอรี่รูปภาพ
-
เว็บบอร์ด
-
ติดต่อเรา
พระร่วงทรงเกราะ ชินเงิน
ข้อมูลสินค้า
-
รหัสสินค้า
S-151
-
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
08/06/2011 00:00
-
ความนิยม
-
รายละเอียดสินค้า
พระร่วงทรงเกราะ - เนื้อชินเงิน ไขขาว
พระร่วงทรงเกราะ กล่าวกันว่าถูกค้นพบที่องค์พระปรางค์ด้านทิศใต้ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
กรุเดียวกับพระร่วงรางปืน เนื้อตะกั่วสนิทแดง สุดยอดพระเนื้อชินของประเทศไทย
สันนิษฐานว่า เป็นพระที่สร้างขึ้นยุคหลัง โดยช่างสกุลฝีมือชาวบ้าน สร้างด้วยเนื้อชินอุทุมพรหรือชินเขียวล้วนๆ มีมากแบบ มาก
พิมพ์ ทั้งหลังร่อง หลังยันต์ หลังเรียบ หลังลายผ้า หลังรางปืน และหลังกากบาท เท่าที่พบเห็นมีไม่ต่ำกว่า 30 พิมพ์ขึ้นไป แต่ทุก
พิมพ์ทรงจะมีพุทธลักษณะยืนยกพระหัตถ์ทั้ง 2 ข้างเสมอพระอุระ เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าปางประทานธรรม หรือปางห้ามสมุทร
หรือปางห้ามญาติ
ท่านเจ้าคุณพระธรรมโกศาจารย์(ชอบ อนุจารี) เจ้าอาวาสวัดราษฏร์บำรุง จังหวัดชลบุรี วิสัชนาประวัติพระปางนี้ไว้ว่า ตอนที่พระ
พุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ เสด็จไปโปรดอุรุเวลกัสสปะ หัวหน้าชฏิล 500 ในเวลาที่น้ำท่วมที่ประทับ พระพุทธองค์เสด็จจงกรมอยู่ในวง
ล้อมของน้ำที่ท่วม พวกชฏิลพายเรือมาดู เห็นเป็นที่อัศจรรย์ สิ้นพยศยอมเป็นศิษย์รับพระโอวาท
นัยต่อมา ที่เรียกว่าปางห้ามญาติ มีประวัติว่า ในปีที่ฝนน้อย น้ำในแม่น้ำโรหิณีก็ลดน้อย ชาวเมืองกบิลพัสดุ์ญาติฝ่ายพระบิดาและ
ชาวเทวทหะญาติฝ่ายพระมารดา มีปัญหาแย่งน้ำถึงขั้นยกทัพมาทำสงครามกัน พระพุทธองค์เสด็จไปห้าม พระญาติทั้งสองฝ่าย
ทำความเข้าใจกันเพื่อยุติศึกสงคราม รวมประวัติทั้ง 2 เรื่อง ท่านเจ้าคุณเสนอแนวคิด เรียกปางนี้ว่า ปางห้ามพระญาติแย่งน้ำใน
สมุทร เพื่อยุติข้อขัดแย้ง พวกหนึ่งเรียกปางห้ามสมุทร อีกพวกหนึ่งเรียก ปางห้ามญาติ
เนื่องจากพระพิมพ์นี้ เหนือพระพักตร์มีลักษณะคล้ายสวมหมวกจีโบ ตามแบบศิลปะขอม บางพิมพ์มีลักษณะเลอะเลือน ไม่ปรากฏ
พระพาหา ประทับยืนประดุจดั่งอยู่ในเกราะป้องกันร่างของขุนศึกในยามออกสงคราม จึงเป็นที่มาของคำว่า "ทรงเกราะ"บางพิมพ์
มีลักษณะคล้ายมัมมี่ของอียิปต์โบราณ เป็นมูลเหตุให้เรียกขานว่าพิมพ์ "มัมมี่"
ด้วยกฤดาภินิหารที่โดดเด่นด้านมหาอุด คงกระพันชาตรี ป้องกันอุปัทวันตรายนานาประการ และมีมหาอำนาจประดุจดั่งพระร่วงเจ้า
แห่งเมืองสุโขทัย ที่มีวาจาสิทธิ์ ตรัสคำใดเป็นดั่งนั้น จนเป็นที่เกรงขามและนับถือของปวงชนทั่วไป ทำให้พระพิมพ์นี้ได้รับความนิยม
สูงสุด ดุจดั่งราชันแห่งชินเขียว ที่มีดีกรีการเช่าหารองลงมาจากพระยอดอัฏฐารส จักรพรรดิของชินอุทุมพร แห่งเมืองพิษณุโลก.