" ไฟพญานาคราช " - ไฟพญานาคราชนี้ เกิดขึ้นตอนที่ครูบาชัยมงคลได้หุงน้ำมันว่านด้วยมือเปล่า และในกระทะมีว่านและน้ำมันว่าน ที่ร้อนเกินกว่า 100 องศา ภายในงานวันไหว้ครูประจำปี 52
ก่อนเริ่มพิธีได้มีการบวงสรวงและอัญเชิญ องค์พญานาคราช (ดังรูปที่2 คือใช้ไม้เท้าพญานาคราช บรวงสรวงต่อมณฑลพิธี และต่อกะทะครู) และ อัญเชิญครูบาอาจารย์ลงสถิตย์
เมื่อเริ่มพิธีไปได้สักพักในขณะที่กำลังเคี่ยวน้ำมัน โดยใช้มือคนในกะทะอยุ่นั้น (ดังรูปที่3) ทันใดนั้นเอง น้ำมันก็ล้นออกมา
ราดลงไปบนกองฟืน จึงเกิดไฟลุกท่วม (มีเสียงดัง พรึ่บ)
ไฟนั้นได้ลุกสูง ท่วม เกินศรีษะ ท่านครูบา ขึ้นไปเสียอีก
และด้วยลูกไฟลูกใหญ่นั้นจึงทำให้ ลูกศิษย์ลูกหาหลายท่าน ตกใจ
ด้วยแรงเพลิงที่ ร้อนวาบ เข้าหน้าของลูกศิษย์หลายท่าน และ ผู้คนในงานต่างตื่นตกใจ
ก็จึงบังเกิดให้มีเหตุอัศจรรย์ขึ้นต่อหน้าทุกคนในงานซึ่งอยุ่ร่วมเป็น
สักขีพยาน ภาพที่เห็นก็คือ องค์พญานาคราชไฟ ทรงลงประทับ
ในมณฑลพิธี บนกระทะน้ำมัน
โดยจะเห็น เศียรองค์พญานาคราช ชูชัน อยุ่ทางซ้ายมือ และหางพันรอบกระทะ ซึ่งมาพร้อมไฟที่ร้อนสุดทานทน ดังรูปแรก
(ผู้คนที่อยุ่ในเหตุการณ์โดยรอบ รู้สึกได้จากแรงกระแทกของลมอัน
ร้อนผ่าว ผ่านหน้าไป)
ถ้าท่านเป็นคนธรรมดาศรีษะและจีวร คงมอดไหม้ เหมือนโดนไฟลวก
และจีวรคง ขาดหวิ่นเป็นแน่แท้ (จากรูปแรก จะเห็นศรีษะครูบาอยุ่ในแนวกลางกะทะพอดี) และจากรูปจะเห็นว่ามีไฟพุ่งขึ้นไปปะทะ ใบหน้าของท่านพอดี ทำให้ผู้คนยิ่งตกใจมาก
แต่พอไฟนาคราช สงบลง ผู้คนต่างแตกตื่น ลูกศิษย์ต่างเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปช่วย...
แต่แล้ว ร่างท่านครูบา พร้อมจีวร ไม่มีรอยไหม้หรือแผลพุพองแม้แต่น้อย ด้วยพลานุภาพของวิชาอาคมของท่านนั้น จึงปกป้องตัวท่านไว้ได้ โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
(โดยปกติคนทั่วไปก็ไม่มีใครเอามือ ลงไปคนว่านและน้ำมันว่าน ในกระทะร้อนๆ อยุ่แล้ว แต่ในพิธีต้องรอให้ไฟร้อนถึงที่สุดก่อน เพื่อให้ว่านที่คนพร้อมน้ำมันนั้นเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว)
ส่วนน้ำมันที่หุงนั้นท่านก็ได้แจกจ่ายชาวบ้านเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคต่อไป
บ้างก็ว่า คนเป็นอัมพาตบางคนก็ทุเลาดีขึ้น จนใช้ชีวิตได้เกือบปกติ
** อ้อลืมบอกครับพอเสร์จพิธีมีนักข่าวและชาวบ้านหลายคน ได้ไปขอดูมือของท่านหลังเดินออกมาจากมณฑลพิธี ปรากฏว่า มือของท่านไม่มีแม้แต่อาการ พุ พอง ใดๆเลย ส่วนลูกศิษย์ลูกหานั้นเค้ารู้กันครับ สำหรับท่านแล้วแค่นี้ สบายมาก ครับ **
ประเภท ” ลงของ ” คือการลง "นะหน้าทอง และ นะสาลิกาลิ้นทอง” ครูบาชัยมงคลมีวิชาอาคมในการลงนะหน้าทองได้เข้มขลังยิ่ง ท่านจะบริกรรมคาถาและใช้ฝ่ามือกดแผ่นทองคำเปลวที่ติดบนหน้าผากให้หายวับไปกับตา
สำหรับความขมังเวทย์ที่พิสูจน์ได้ คือ”วิชาเสือสมิงพราย” ที่ท่านไปเรียนมาจากพ่อหมอดำ เมืองท่าล้อ เขตสิบสองปันนา ถ้าท่านปลุกเสือสมิงเมื่อไรเป็นได้เห็นคนที่มี”เสือ”ไม่ว่าจะเป็นรอยสักหรือมีเครื่องรางประเภทเสือที่ท่านปลุกเสกจะออกอาการ “ของขึ้น”ทันทีทันใด นี่แหละ....เข้มขลัง...สั่งได้
ครูบาชัยมงคล ชัยธัมโม เจ้าอาวาสวัดไทรย้อย เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งล้านนา เป็นเนื้อนาบุญแห่งพระพุทธศาสนา เป็นที่พึ่งที่เคารพ เป็นอัญมณีแห่งศรัทธาของสาธุชน
**** และนั้น จึงเป็นคำตอบที่แสดงให้เห็นว่า ทำไมวัตถุมงคลของท่านถึงมี พลานุภาพของพุทธคุณแก่กล้า อีกทั้งมูลค่าทางจิตใจและราคาก็สูงยิ่งนั้น คงเป็นเพราะ ด้วยแรงแห่งรักและศรัทธาจากสาธุชน นั้นเอง ****